วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2558

ความมุ่งหมายของการศึกษา

ความมุ่งหมายของการศึกษา
    1.  เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ เรื่อง My Family สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80
                   2.  เพื่อศึกษาทักษะภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ เรื่อง My  Family ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ความสำคัญของการศึกษา
   1.ได้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ  เรื่อง My  Family ที่มีประสิทธิภาพใช้ประกอบการสอน  เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ  ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนเกิดทักษะภาษาอังกฤษทั้งการฟัง  การพูด   การอ่านและการเขียน
  2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ มีแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษประกอบการเรียน เรื่อง My  Family  เพื่อเสริมทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนให้มีความกล้าและมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น
  3. เป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอนที่สนใจนำรูปแบบและวิธีการสร้างแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ ไปจัดทำสื่อเพื่อใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในเรื่องอื่นๆ และระดับชั้นต่างๆ ตามความเหมาะสม
              4. เป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนในพื้นที่หรือระดับอื่นๆ ที่ใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเป็นสื่อประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
            5. ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้น
ขอบเขตของการศึกษา
    กลุ่มเป้าหมาย  ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน
ซอและฮ์ศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 ที่มีคะแนนเฉลี่ยจากการวัดทักษะภาษาอังกฤษต่ำกว่าเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด คือร้อยละ 80 จำนวน  35 คน และผู้ศึกษาได้ทำข้อตกลงกับโรงเรียนที่จะพัฒนานักเรียนกลุ่มเป้าหมายนี้ ให้มีทักษะภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น เป็นไปตามเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด และเป็นนักเรียนที่ผู้ศึกษาเป็นผู้สอนเอง
    เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา   
   ผู้ศึกษาได้ใช้เนื้อหาในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนซอและฮ์ศึกษา  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)  เรื่อง  My  family  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555  เป็นแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ 
            ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา
              ตัวจัดกระทำ (treatment)  คือ แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ เรื่อง  My  Family จำนวน  10 เล่ม
              ตัวแปรตามคือ ทักษะภาษาอังกฤษ  ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
            ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา

            ใช้เวลาในภาคเรียนที่ 1  ปีการศึกษา  2555  

นิยามศัพท์เฉพาะ

นิยามศัพท์เฉพาะ
                    1.  แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ หมายถึง สื่อที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น ใช้ประกอบ
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  เรื่อง  My  Family  จำนวน 10 เล่ม
                2. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ ตามเกณฑ์ 80/80 หมายถึง ประสิทธิภาพของแบบเสริมทักษะภาษาอังกฤษที่ได้มาจากกระบวนการและผลลัพธ์ของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีค่าตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้
                         80  ตัวแรกคือ  ประสิทธิภาพของกระบวนการ(E1 ) ที่คำนวณได้จากค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ที่เก็บได้จากการแบบวัดผลการเรียนรู้ในแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษแต่ละเล่มระหว่างเรียน
                         80  ตัวหลังคือ ประสิทธิภาพของผลลัพธ์(E2 ) ที่คำนวณได้จากค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เก็บได้จากการทำแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษหลังการเรียนที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
                    3. ทักษะภาษาอังกฤษ หมายถึง ความชำนาญในการพูดหรือเขียนภาษาอังกฤษเพื่อสื่อความหมาย ทักษะภาษาอังกฤษมี 4 ทักษะ คือ ทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่านและทักษะการเขียน 
                ทักษะการฟัง (Listening Skill) หมายถึง การที่ผู้รับสารเข้าใจความหมายว่าผู้พูดพูดอะไรมีความหมายอย่างไร โดยใช้ประสบการณ์เดิมมีความสามารถในการแยกแยะ มีความเข้าใจการออกเสียงไวยากรณ์ คำศัพท์ของผู้พูดพร้อมจับใจความ
                ทักษะการพูด (Speaking Skill) หมายถึง ความสามารถสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจ ผู้พูดต้องมีความรู้เรื่องการออกเสียงไวยากรณ์  การใช้คำเหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรม
                ทักษะการอ่าน (Reading Skill) หมายถึง ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เขียนกับผู้อ่าน  เมื่ออ่านแล้วมีการรับรู้และความเข้าใจเป็นความสามารถตามผู้เขียน ถ้าเปล่งเสียงออกเรียกว่า การอ่านออกเสียง ถ้าไม่เปล่งเสียงเรียกว่าการอ่านในใจ 
                      ทักษะการเขียน(Writing Skill) หมายถึง ความสามารถในการถ่ายทอดความคิดเห็นของผู้เขียน  เป็นคำ เป็นประโยคที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ 
            4. แบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ หมายถึง แบบทดสอบที่ใช้วัดความรู้ ความสามารถ  ความเข้าใจ ในเนื้อหาและทักษะภาษาอังกฤษที่ได้เรียนมาแล้ว ประกอบด้วยแบบทดสอบวัดทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เรื่อง  My Family  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่
            1. แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ เรื่อง  My  Family   ชั้นประถมศึกษาปีที่ จำนวน 10 เล่ม ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีดังนี้
เล่มที่  1  Family Members
เล่มที่  2  Who is he?
เล่มที่  3  What does he do?
เล่มที่  4  Where does he work?
เล่มที่  5  What  is he  doing?
เล่มที่  6  Does he  like….?
เล่มที่  7  What  hobby does he like?
เล่มที่  8  What do we bring for a picnic?
เล่มที่  9  What is your family’s  favorite...............?

เล่มที่  10  Memory of love in my family.
2. แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง  My  Family  ชั้นประถมศึกษาปีที่ จำนวน 10 แผนการจัดการเรียนรู้  แผนละ  ชั่วโมง  รวมทั้งสิ้น  30  ชั่วโมง   ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
            3. แบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ  เรื่อง  My  Family   ชั้นประถมศึกษาปีที่ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 3  ฉบับ
                   ฉบับที่ 1 แบบทดสอบแบบเลือกตอบ  4  ตัวเลือก  
                                 ตอนที่ 1 การฟัง     จำนวน 10 ข้อ 
                                    ตอนที่ 2 การอ่าน   จำนวน 10 ข้อ        
                                 ตอนที่ 3 การเขียน  จำนวน10 ข้อ   
                   ฉบับที่ 2 แบบทดสอบการพูด จำนวน  ข้อ
                   ฉบับที่ 3 แบบทดสอบการอ่านออกเสียง จำนวน  ข้อ
วิธีดำเนินการศึกษา
ผู้ศึกษาดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล  ในภาคเรียน 1 ปีการศึกษา 2555  จำนวน 6 สัปดาห์ๆ ใช้เวลาในชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ  2   ชั่วโมง  และชั่วโมงสอนซ่อมเสริมอีก  4  ชั่วโมง  โดยมีรายละเอียดดังนี้
            1. ทำการทดสอบก่อนเรียน ( Pre-test ) ด้วยแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นกับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย  ผู้ศึกษาดำเนินการทดสอบเอง  โดยทำการทดสอบนอกเวลา ใช้เวลาในการทดสอบดังนี้  ฉบับที่ ใช้เวลาในการทดสอบ  60  นาที  ฉบับที่ 2 และ 3 ใช้เวลาในการทดสอบฉบับละ  60  นาที   แล้วตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
            2. จัดกิจกรรมการเรียนรู้  ผู้ศึกษาเป็นผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมายด้วยตนเอง ตามตารางที่กำหนดไว้  โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น  10  แผน 30 ชั่วโมง
ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้  เช่นการแสดงบทบาทสมมติ การเล่นเกม ร้องเพลง กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ ก่อนโยงสู่การใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ และทำประเมินผลการเรียนรู้ในแต่ละเล่ม เพื่อตรวจสอบความเข้าใจในการเรียน
            4. ทำการทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษหลังเรียน ( Post-test ) กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย  เป็น ฉบับเดียวกับที่ใช้ทดสอบก่อนเรียนแต่สลับข้อ ดำเนินการเช่นเดียวกับการทดสอบก่อนเรียน ใช้เวลาในการทดสอบ ฉบับที่ ใช้เวลาในการทดสอบ  60  นาที  ฉบับที่ 2 และ 3 ใช้เวลาในการทดสอบฉบับละ  60  นาที   แล้วตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
การจัดกระทำและวิเคราะห์ข้อมูล
            ผู้ศึกษาได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามขั้นตอนดังนี้
            1. วิเคราะห์แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ เรื่อง My Family ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลหาค่าเฉลี่ย  แบบมาตราส่วนประมาณค่า  5 ระดับ โดยใช้เกณฑ์ของเบสท์ (อ้างในนิรมล ศตวุฒิ, 2542:42)  แล้วหาค่าแปลตามคะแนน
            2. วิเคราะห์หาค่าความยากง่าย(p)ของแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษรายข้อ
            3. วิเคราะห์หาค่าอำนาจจำแนก(r)ของแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษรายข้อ
            4. วิเคราะห์หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษทั้งฉบับ
            5. วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ 80/80 โดยใช้ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 
            6. วิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย  ร้อยละและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  ของคะแนนจากการทำแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
            7. วิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ร้อยละ จากการทำแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ ก่อนและหลังเรียนของนักเรียน


วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนซอและฮ์ศึกษา เรื่อง My Family โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
โดย นางยุพดี  สะอิ๊

โรงเรียนซอและฮ์ศึกษา 
ภูมิหลัง            
                  จากความสำคัญของภาษาอังกฤษ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  พ.. 2551 (กระทรวงศึกษาธิการ:2551)ได้กำหนดให้ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้เรียนรู้เรื่อง การปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้องและคำแนะนำง่ายๆ ที่ฟังหรืออ่าน อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพูดเข้าจังหวะถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสั้นๆ ที่ฟัง หรืออ่าน ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ พูด/เขียน โต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และคำขออนุญาตง่ายๆ พูด/เขียน แสดงความต้องการของตนเอง และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ พูด/เขียน เพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว พูดแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว และกิจกรรมต่างๆ ตามแบบที่ฟัง  พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว พูด/วาดภาพแสดงความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆใกล้ตัวตามที่ฟังหรืออ่าน พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว พูดและทำท่าประกอบอย่างสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคำถามเกี่ยวกับเทศกาล/วันสำคัญ/
งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ง่ายๆ ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะกับวัย  บอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค และข้อความของภาษาต่าง
ประเทศและภาษาไทย บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลอง ตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย  ค้นคว้า  รวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นและนำเสนอด้วยการพูด / การเขียน  ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา  และใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่างๆ 
                ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษพบว่า  ปัญหาสำคัญคือ จากผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  ในปีการศึกษา 2552 ซึ่งดำเนินการสอบโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ผลการทดสอบพบว่าในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่  6 สาระภาษาอังกฤษต่ำที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเพียง 48.97 (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2:2552) ในปีการศึกษา 2553 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 31.68 (โรงเรียนซอและฮ์ศึกษา:2553) สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศวิชาภาษาอังกฤษ  ต่ำกว่ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา  กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  และกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามลำดับ  เมื่อพิจารณาตามกลุ่มคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา จัดอยู่ในกลุ่มคุณภาพที่ 5 เป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการพัฒนายกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาในปีการศึกษาต่อไป ซึ่งครูผู้สอนภาษาอังกฤษจะต้องพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน  หาวิธีสอน/เทคนิคการสอน จัดหาสื่อการเรียน/แหล่งการเรียนรู้ ที่เอื้ออำนวยส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะภาษาอังกฤษ มีความรู้ความสามารถในการสื่อสาร แล้วนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตจริง
                จากที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ศึกษาในฐานะครูผู้สอนภาษาอังกฤษนักเรียน ชั้นประถมศึกษา   ปีที่ 4 เห็นว่าแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ มีความสำคัญและเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนและช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนให้ดีขึ้น นักเรียนสามารถฝึกฝนตนเองได้อย่างเต็มที่  ฝึกให้นักเรียนมีความเชื่อมั่นในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น เสริมให้มีทักษะคงทน ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ผู้ศึกษาจึงได้สร้างแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ