รายการแบบฝึก
วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558
วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2558
ความมุ่งหมายของการศึกษา
ความมุ่งหมายของการศึกษา
1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
เรื่อง My Family สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่
4 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80
2.
เพื่อศึกษาทักษะภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
เรื่อง My Family ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ความสำคัญของการศึกษา
1.ได้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
เรื่อง My Family ที่มีประสิทธิภาพใช้ประกอบการสอน เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนเกิดทักษะภาษาอังกฤษทั้งการฟัง การพูด
การอ่านและการเขียน
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
มีแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษประกอบการเรียน เรื่อง My
Family เพื่อเสริมทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนให้มีความกล้าและมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น
3.
เป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอนที่สนใจนำรูปแบบและวิธีการสร้างแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
ไปจัดทำสื่อเพื่อใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในเรื่องอื่นๆ และระดับชั้นต่างๆ
ตามความเหมาะสม
4. เป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนในพื้นที่หรือระดับอื่นๆ
ที่ใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเป็นสื่อประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
5. ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้น
ขอบเขตของการศึกษา
กลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียน
ซอและฮ์ศึกษา
ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2555 ที่มีคะแนนเฉลี่ยจากการวัดทักษะภาษาอังกฤษต่ำกว่าเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด
คือร้อยละ 80 จำนวน 35 คน และผู้ศึกษาได้ทำข้อตกลงกับโรงเรียนที่จะพัฒนานักเรียนกลุ่มเป้าหมายนี้ ให้มีทักษะภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น เป็นไปตามเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด และเป็นนักเรียนที่ผู้ศึกษาเป็นผู้สอนเอง
เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา
ผู้ศึกษาได้ใช้เนื้อหาในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนซอและฮ์ศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) เรื่อง
My family ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 เป็นแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา
ตัวจัดกระทำ (treatment) คือ แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
เรื่อง My Family จำนวน 10 เล่ม
ตัวแปรตามคือ ทักษะภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
4
ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา
ใช้เวลาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา
2555
นิยามศัพท์เฉพาะ
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ หมายถึง สื่อที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น
ใช้ประกอบ
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน
เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง
My Family จำนวน 10 เล่ม
2. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ ตามเกณฑ์ 80/80
หมายถึง
ประสิทธิภาพของแบบเสริมทักษะภาษาอังกฤษที่ได้มาจากกระบวนการและผลลัพธ์ของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
มีค่าตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้
80 ตัวแรกคือ ประสิทธิภาพของกระบวนการ(E1 ) ที่คำนวณได้จากค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
4 ที่เก็บได้จากการแบบวัดผลการเรียนรู้ในแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษแต่ละเล่มระหว่างเรียน
80
ตัวหลังคือ ประสิทธิภาพของผลลัพธ์(E2 ) ที่คำนวณได้จากค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ที่เก็บได้จากการทำแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษหลังการเรียนที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
3. ทักษะภาษาอังกฤษ หมายถึง ความชำนาญในการพูดหรือเขียนภาษาอังกฤษเพื่อสื่อความหมาย
ทักษะภาษาอังกฤษมี 4 ทักษะ คือ ทักษะการฟัง ทักษะการพูด
ทักษะการอ่านและทักษะการเขียน
ทักษะการฟัง
(Listening Skill) หมายถึง
การที่ผู้รับสารเข้าใจความหมายว่าผู้พูดพูดอะไรมีความหมายอย่างไร
โดยใช้ประสบการณ์เดิมมีความสามารถในการแยกแยะ มีความเข้าใจการออกเสียงไวยากรณ์
คำศัพท์ของผู้พูดพร้อมจับใจความ
ทักษะการพูด (Speaking Skill) หมายถึง
ความสามารถสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจ
ผู้พูดต้องมีความรู้เรื่องการออกเสียงไวยากรณ์
การใช้คำเหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรม
ทักษะการอ่าน (Reading Skill) หมายถึง ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เขียนกับผู้อ่าน เมื่ออ่านแล้วมีการรับรู้และความเข้าใจเป็นความสามารถตามผู้เขียน
ถ้าเปล่งเสียงออกเรียกว่า
การอ่านออกเสียง ถ้าไม่เปล่งเสียงเรียกว่าการอ่านในใจ
ทักษะการเขียน(Writing Skill) หมายถึง ความสามารถในการถ่ายทอดความคิดเห็นของผู้เขียน เป็นคำ
เป็นประโยคที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
4.
แบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ หมายถึง แบบทดสอบที่ใช้วัดความรู้
ความสามารถ ความเข้าใจ
ในเนื้อหาและทักษะภาษาอังกฤษที่ได้เรียนมาแล้ว ประกอบด้วยแบบทดสอบวัดทักษะ การฟัง
การพูด การอ่าน และการเขียน เรื่อง My Family ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่
1.
แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ เรื่อง My Family
ชั้นประถมศึกษาปีที่
4 จำนวน 10 เล่ม ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีดังนี้
เล่มที่ 1 Family
Members
เล่มที่ 2 Who
is he?
เล่มที่ 3 What does he do?
เล่มที่ 4 Where
does he work?
เล่มที่ 5 What is he doing?
เล่มที่ 6 Does he like….?
เล่มที่ 7 What hobby does he like?
เล่มที่ 8 What do we bring for a picnic?
เล่มที่ 9 What is your family’s favorite...............?
เล่มที่ 10 Memory of love in my family.
2.
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง
My Family ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 10 แผนการจัดการเรียนรู้ แผนละ 3 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น
30 ชั่วโมง ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
3. แบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ เรื่อง
My Family ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน
3 ฉบับ
ฉบับที่ 1 แบบทดสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก
ตอนที่ 1 การฟัง จำนวน 10 ข้อ
ตอนที่ 2 การอ่าน จำนวน 10 ข้อ
ตอนที่ 3 การเขียน จำนวน10 ข้อ
ฉบับที่ 2 แบบทดสอบการพูด จำนวน 2
ข้อ
ฉบับที่ 3 แบบทดสอบการอ่านออกเสียง
จำนวน 2 ข้อ
วิธีดำเนินการศึกษา
ผู้ศึกษาดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ในภาคเรียน 1 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 6
สัปดาห์ๆ ใช้เวลาในชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ
2 ชั่วโมง และชั่วโมงสอนซ่อมเสริมอีก 4 ชั่วโมง โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ทำการทดสอบก่อนเรียน
( Pre-test ) ด้วยแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นกับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ผู้ศึกษาดำเนินการทดสอบเอง โดยทำการทดสอบนอกเวลา ใช้เวลาในการทดสอบดังนี้ ฉบับที่ 1 ใช้เวลาในการทดสอบ 60
นาที ฉบับที่ 2 และ 3 ใช้เวลาในการทดสอบฉบับละ 60
นาที แล้วตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. จัดกิจกรรมการเรียนรู้
ผู้ศึกษาเป็นผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมายด้วยตนเอง ตามตารางที่กำหนดไว้ โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น 10 แผน 30 ชั่วโมง
ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย
เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้
เช่นการแสดงบทบาทสมมติ การเล่นเกม ร้องเพลง กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ ก่อนโยงสู่การใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
และทำประเมินผลการเรียนรู้ในแต่ละเล่ม เพื่อตรวจสอบความเข้าใจในการเรียน
4.
ทำการทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษหลังเรียน ( Post-test ) กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย เป็น ฉบับเดียวกับที่ใช้ทดสอบก่อนเรียนแต่สลับข้อ
ดำเนินการเช่นเดียวกับการทดสอบก่อนเรียน ใช้เวลาในการทดสอบ ฉบับที่ 1 ใช้เวลาในการทดสอบ 60 นาที ฉบับที่
2 และ 3 ใช้เวลาในการทดสอบฉบับละ 60
นาที แล้วตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
การจัดกระทำและวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้ศึกษาได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามขั้นตอนดังนี้
1. วิเคราะห์แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
เรื่อง My Family ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลหาค่าเฉลี่ย
แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยใช้เกณฑ์ของเบสท์ (อ้างในนิรมล ศตวุฒิ, 2542:42) แล้วหาค่าแปลตามคะแนน
2. วิเคราะห์หาค่าความยากง่าย(p)ของแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษรายข้อ
3. วิเคราะห์หาค่าอำนาจจำแนก(r)ของแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษรายข้อ
4. วิเคราะห์หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษทั้งฉบับ
5. วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษตามเกณฑ์
80/80 โดยใช้ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
6. วิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย ร้อยละและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของคะแนนจากการทำแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
7. วิเคราะห์ค่าเฉลี่ย
ร้อยละ จากการทำแบบทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ ก่อนและหลังเรียนของนักเรียน
วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558
การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
4
โรงเรียนซอและฮ์ศึกษา
เรื่อง My
Family โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
โดย นางยุพดี สะอิ๊
โรงเรียนซอและฮ์ศึกษา
ภูมิหลัง
จากความสำคัญของภาษาอังกฤษ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (กระทรวงศึกษาธิการ:2551)ได้กำหนดให้ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้เรียนรู้เรื่อง การปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้องและคำแนะนำง่ายๆ
ที่ฟังหรืออ่าน อ่านออกเสียงคำ
สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพูดเข้าจังหวะถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุภาพ
หรือสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสั้นๆ ที่ฟัง หรืออ่าน ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค
บทสนทนา และนิทานง่ายๆ พูด/เขียน
โต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และคำขออนุญาตง่ายๆ พูด/เขียน แสดงความต้องการของตนเอง และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ พูด/เขียน เพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
เพื่อน และครอบครัว พูดแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
ใกล้ตัว และกิจกรรมต่างๆ ตามแบบที่ฟัง พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว พูด/วาดภาพแสดงความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆใกล้ตัวตามที่ฟังหรืออ่าน พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆ
เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว พูดและทำท่าประกอบอย่างสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคำถามเกี่ยวกับเทศกาล/วันสำคัญ/
งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ง่ายๆ
ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะกับวัย บอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค
และข้อความของภาษาต่าง
ประเทศและภาษาไทย บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลอง
ตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย
ค้นคว้า รวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นและนำเสนอด้วยการพูด
/ การเขียน
ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา และใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่างๆ
ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษพบว่า ปัญหาสำคัญคือ
จากผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2552
ซึ่งดำเนินการสอบโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)
ผลการทดสอบพบว่าในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
6 สาระภาษาอังกฤษต่ำที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเพียง 48.97 (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี
เขต 2:2552) ในปีการศึกษา
2553 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ
31.68 (โรงเรียนซอและฮ์ศึกษา:2553) สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศวิชาภาษาอังกฤษ ต่ำกว่ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ตามลำดับ เมื่อพิจารณาตามกลุ่มคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา
จัดอยู่ในกลุ่มคุณภาพที่ 5
เป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการพัฒนายกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาในปีการศึกษาต่อไป ซึ่งครูผู้สอนภาษาอังกฤษจะต้องพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน หาวิธีสอน/เทคนิคการสอน จัดหาสื่อการเรียน/แหล่งการเรียนรู้
ที่เอื้ออำนวยส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะภาษาอังกฤษ มีความรู้ความสามารถในการสื่อสาร
แล้วนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตจริง
จากที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ศึกษาในฐานะครูผู้สอนภาษาอังกฤษนักเรียน
ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 เห็นว่าแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
มีความสำคัญและเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนและช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนให้ดีขึ้น นักเรียนสามารถฝึกฝนตนเองได้อย่างเต็มที่
ฝึกให้นักเรียนมีความเชื่อมั่นในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น เสริมให้มีทักษะคงทน ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ผู้ศึกษาจึงได้สร้างแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)